เคลมประกันรถแบบมีคู่กรณี vs ไม่มีคู่กรณี ต้องทำอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง ?

เคลมประกัน

เพราะอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เจ้าของรถยนต์อย่างเรา ๆ นั้นไม่สามารถคาดเดา คาดการณ์ได้ล่วงหน้าเลยแหละค่ะ โดยเฉพาะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ใครที่ทำประกันชั้น 1 เอาไว้ก็ถือว่าเป็นแต้มบุญไป เพราะให้ความคุ้มครองทั้งรถเขา + รถเรา

ในบทความนี้.. เราจะมาพูดถึงเรื่องการ เคลมประกัน กันค่ะ แต่ไม่ได้เป็นการเคลมประกันสุขภาพ หรืออุบัติเหตุ แต่จะเป็น การเคลมประกันรถ เพราะทางผู้เขียนรู้สึกว่าเรื่อง เคลมรถ เป็นสิ่งที่ใกล้ตัว เนื่องจากคนส่วนมากก็มีรถเป็นของตัวเองอยู่แล้ว

เราลองมาดูกันค่ะว่า เคลมประกันรถ แบบมีคู่กรณี และเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณี (ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด) ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง มีวิธีขั้นตอนการเคลมประกันอย่างไร การเคลมประกันรถใช้เวลานานแค่ไหน Newlorry มีคำตอบเกี่ยวกับการเคลมประกันรถมาให้เพื่อน ๆ อย่างครบถ้วนแน่นอน !

หัวข้อที่น่าสนใจ

การเคลมประกันรถ
การเคลมประกันรถ เป็นการนำรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายมาเข้าซ่อมแซมจากบริษัทประกันที่ทำประกันด้วย

เคลมรถ คืออะไร

อธิบายแบบง่าย ๆ เคลมประกันรถ คือ การนำรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ ไปเข้ารับการซ่อมจากศูนย์บริการ-อู่บริการในเครือบริษัทประกันภัยที่เราทำประกันภัยรถยนต์อยู่ด้วยนั่นเอง ไม่ว่าเจ้าของรถยนต์จะเป็นฝ่ายถูก-ฝ่ายผิดก็สามารถ เคลมรถ ได้ แต่มีข้อแม้ว่าประกันภัยรถยนต์ที่เราทำไว้นั้นต้องให้ความคุ้มครองซ่อมรถของเราด้วย เช่น ประกันชั้น 1 2+ 3+ (พูดง่าย ๆ ว่า รถต้องมีประกัน และประกันนั้นต้องคุ้มครองรถเราด้วยจึงจะสามารถเคลมประกันได้ !)

อ่านความคุ้มครองของประกันรถที่สามารถเคลมประกันได้ทั้งรถเราและรถคู่กรณีได้ที่นี่

ประเภทของการเคลมประกัน

การเคลมประกันรถ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1. การเคลมสด

เป็นการ เคลมประกัน ทันทีในที่เกิดเหตุ เช่น ขับรถไปชน แล้วแจ้งเคลมประกันเลยทันที อารมณ์ประมาณว่าเป็นการเคลมประกันแบบสด ๆ ร้อน ๆ ชนิดที่ว่าคู่กรณียังคาอยู่ในที่เกิดเหตุนี่แหละ

2. การเคลมแห้ง

เป็นการเคลมประกันหลังจากที่มีการเกิดอุบัติเหตุไปแล้ว ส่วนมากจะเป็นการชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น การถอนชนเสา แล้วทิ้งระยะเวลาไว้เพื่อรอเคลมประกันรถทีหลัง

อ่านเพิ่มเติม : เคลมแห้ง VS เคลมสด คืออะไร มีขั้นตอนการเคลมประกันแต่ละแบบอย่างไรบ้าง ?

การเคลมต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

อุบัติเหตุสาเมารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาการเดินทาง ทางที่ดีที่สุดเจ้าของรถควรพก เอกสารเคลมประกันรถยนต์ ติดรถเอาไว้ตลอดเวลา เพื่อที่เวลาต้องการใช้งานจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการหาเอกสาร ถือว่าเป็นการเตรียมพร้อมเคลมประกันภัยไปในตัว เอกสารเคลมประกันที่ใช้มีดังนี้

1. กรมธรรม์ตัวจริง หรือสำเนา

2. สำเนาทะเบียนรถ

3. สำเนาใบขับขี่

4. สำเนาบัตรประชาชน

5. ใบเคลมประกันรถยนต์ (จะได้รับหลังจากที่แจ้งเคลมประกันแล้ว)

เคลมประกันมีคู่กรณี
การเคลมประกันแบบมีคู่กรณี

ขั้นตอนการเคลมประกัน

วิธีเคลมประกันแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี นั้นจะมีวิธีการแจ้ง เคลมประกัน แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งเราจะไปลองดูรายละเอียดการเคลมประกันรถทั้ง 2 แบบกันค่ะ

เคลมประกันแบบมีคู่กรณี

การเคลมประกันแบบมีคู่กรณี ส่วนมากจะเป็นการเคลมประกันชั้น 1 2+ 3+ เท่านั้น ! การเคลมประกันชั้น 1 มีคู่กรณี จะเป็นการแจ้งเคลมประกันรถทันทีที่เกิดเหตุ โดยส่วนมากแล้ว เคลมประกันแบบมีคู่กรณี ถือว่าเป็นการเคลมที่เกิดขึ้นเยอะมาก ๆ ในปัจจุบัน

สำหรับขั้นตอนการ เคลมประกัน แบบมีคู่กรณีก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ให้เริ่มที่เราโทรแจ้งเคลมประกันกับบริษัทประกันภัยที่ทำประกันด้วย โดยแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ทะเบียนรถ ชื่อผู้ทำประกัน เลขกรมธรรม์ สถานที่เกิดเหตุ ลักษณะของการเกิดเหตุ

เมื่อเจ้าหน้าที่เคลมประกันมาถึงก็จะออกเอกสารการเคลมรถให้ เพื่อน ๆ จะได้รับ ใบใคลมประกัน หมายเลขเคลมประกันรถ จากนั้น.. ก็สามารถนำรถยนต์ไปเข้าซ่อมที่ศูนย์ หรืออู่บริการตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้บนกรมธรรม์ของเราได้เลย

เคลมประกันไม่มีคู่กรณี
การเคลมประกันไม่มีคู่กรณี

เคลมประกันไม่มีคู่กรณี

การทำเรื่อง เคลมรถไม่มีคู่กรณี ค่อนข้างมีความแตกต่างกับการเคลมประกันแบบมีคู่กรณีนิดนึง (ก็แอบยุ่งยากหน่อย ๆ) โดยส่วนมากแล้วรถที่แจ้ง เคลมประกัน แบบไม่มีคู่กรณี รถยนต์มักจะได้รับความเสียหายจากการชนสิ่งปลูกสร้างซะมากกว่า เช่น ถอยรถชนเสา ชนประตู กระจกรถแตก เคลมประกันเปลี่ยนกันชน เคลมยางรถยนต์ ฯลฯ

แต่การที่จะแจ้ง เคลมประกันไม่มีคู่กรณี จะสามารถเคลมได้แค่ประกันชั้น 1 เท่านั้น ! เพราะว่าประกันชั้น 1 เคลมประกันไม่มีคู่กรณีได้ และเคลมแบบมีคู่กรณีได้เช่นกัน (อย่างว่าแหละ ก็เบี้ยประกันแพงสุดนี่นา เลยพิเศษกว่านิด ๆ) นอกจากนี้.. ยังรวมถึงเหตุรถชนแบบไม่มีคู่กรณีอย่างเหตุโดนชนแล้วหนี ก็ถูกนับว่าเป็นการเคลมประกันรถไม่มีคู่กรณีนั่นเอง

ขั้นตอน เคลมประกันชั้น 1 ไม่มีคู่กรณี จะเป็นแบบนี้..

1. แจ้งโชว์รูมรถที่เราซื้อรถด้วย ว่าต้องการนำรถเข้าซ่อม และต้องบอกเหตุผลด้วยว่ารถไปได้รับความเสียหายอะไรมา เช่น จะนำรถ Toyota Altis ไปซ่อม เพราะดันถอยรถไปชนรถขนขยะจนกันชนหลุด ! จากนั้นทางโชว์รูมรถก็จะให้เราโทรแจ้ง เคลมประกัน กับบริษัทประกันภัยเพื่อออกหมายเลขเคลมประกันรถ

2. โทรเคลมประกันกับบริษัทประกันที่ทำประกันด้วย เพื่อขอหมายเลขเคลมประกันในการนำรถยนต์ไปเข้าซ่อม โดยเราจะต้องแจ้งรายละเอียดเคลมประกันดังนี้

  • แจ้งเวลา วันที่เกิดเหตุ : มีวิธีเทา ๆ มาบอก คือ ให้เราแจ้งวัน เวลาเกิดเหตุให้ใกล้เคียงกับวันที่มีการโทรแจ้งโชว์รูมรถมากที่สุด ถึงแม้ว่าจะเกิดเหตุมาหลายวันก็ตาม (อาจจะดูเป็นวิธีเทา ๆ แต่ใคร ๆ ก็ใช้กัน) สาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้ ก็เพราะว่ากันบริษัทประกันบางเจ้าที่ต้องการจะเล่นแง่ไม่ยอมให้เราเคลมประกันนั่นเอง เพราะถ้าบอกไปว่าเกิดเหตุมานานแล้ว ทางประกันบางเจ้าก็จะไม่ออกหมายเลขเคลมให้เราค่ะ
  • แจ้งความเสียหายที่เกิดขึ้น : บอกเจ้าหน้าประกันว่ารถไปโดนอะไรมาถึงได้รับความเสียหาย โดยให้แจ้งความเสียหายไปตามจริง เช่น ถอยชนถังขยะ ชนประตู ชนกระถาง ฯลฯ
  • สามารถแจ้งเคลมประกันได้ทั้งคัน แต่อาจจะมีการเรียกเก็บค่าเสียหายเพิ่มเติมได้ เพราะว่าความเสียหายส่วนอื่น ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเหตุการณ์นั้น ๆ (ใครคิดจะเคลมประกันทั้งคัน ก็อย่าลืมคิดให้ดี ๆ นะคะคุณขา)
  • เจ้าหน้าจะออกใบเคลมประกัน หมายเลขประกันให้กับเรา หลังจากที่ได้ใบเคลมแล้วไม่จำเป็นจะต้องนำรถเข้าเคลมประกันรถเลยทันที สามารถเก็บไว้เคลมทีหลังได้ แต่ใบเคลมประกันจะมีอายุแค่ 1 ปีเท่านั้น !
  • เมื่อจะนำรถไปเคลมประกัน ให้นำเอกสารใบเคลมไปยื่นที่โชว์รูมรถที่เราออกด้วย จากนั้นก็รับใบรับรถ รอเจ้าหน้าที่นัดวันมารับรถค่ะ

เคลมรถกี่วันได้

มีหลายคนสงสัยว่า เคลมรถนานไหม ?

ต้องขอบอกเลยว่ารถแต่ละคันใช้ระยะเวลาในการ เคลมประกัน ไม่เท่ากัน ! ถ้ารถได้รับความเสียหายน้อย คิวช่างว่างพอดี เผลอ ๆ รอเคลมประกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็รอรับรถกลับในวันนั้นได้เลย แต่ถ้ารถได้รับความเสียหายเยอะ หรือช่างไม่ว่างคิวงานแน่น ก็จำเป็นจะต้องรอรับรถตามคิวยาววนไป

การทำเรื่อง เคลมประกันรถ ไม่ว่าจะเป็นการเคลมประกันชั้นหนึ่ง 2+ 3+ 3 สามารถเคลมได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี แต่ต้องเป็นความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเป็นการจัดฉากชนกันเพื่อหวังเงินเคลมประกัน บริษัทประกันเขาไม่ได้ง้าว เขาดูออก ดีไม่ดีอาจโดนลงโทษตามกฎหมายด้วยซ้ำ

สุดท้ายนี้.. ก็หวังว่าเรื่องราวการ เคลมประกัน แบบมีคู่กรณี และเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณีจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ กันนะค้า สามารถนำวิธีด้านบนไปใช้ตามได้เล้ยยยยย

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ข้อมูลนี้มีประโยชน์มากแค่ไหน !
[จำนวนคนโหวต: 1 เฉลี่ย: 5]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
trang cá độ bóng đá uy tín, đăng ký w88, trang chủ w88, nhà cái uy tín nhất, w88 chuẩn nhất, đăng ký 8xbet, link vào fb88, đăng nhập 8xbet, link vào fun88, lô đề trên mạng, đánh đề trên mạng, trang cá cược bóng đá uy tín, nhà cái ok vip, link vào w88