ค่าสินไหมทดแทน
ในการทำประกันภัยทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันเดินทางก็ตาม สิ่งที่ผู้ทำประกันภัยจะได้รับเป็นสิ่งชดเชยหลังจากที่เกิดเหตุความเสียหายขึ้นจะเรียกว่า “ ค่าสินไหมทดแทน ” ในบทความนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวของสินไหมทดแทนกันค่ะว่าคืออะไร โดยเฉพาะใครที่ทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ขอบอกเลยว่าจำเป็นต้องรู้ ! เพราะเป็นเรื่องราวใกล้ตัวมากที่สุด แต่ก่อนอื่นเราไปดูความหมายของค่าสินไหมทดแทนกัน ว่าหมายถึงอะไร คืออะไรกันแน่ ??
หัวข้อค่าสินไหมทดแทนที่น่าสนใจ
- ค่าสินไหมทดแทน คืออะไร
- ผู้มีสิทธิ์ได้รับค่าสินไหมทดแทนคือใคร ?
- เหตุแบบไหนสามารถเบิกสินไหมทดแทนได้
- เอกสารการเบิกค่าสินไหมทดแทน
- ขั้นตอนการเบิกค่าสินไหมทดแทน
- เบิกสินไหมทดแทน ใช้เวลากี่วัน
สินไหมทดแทน คืออะไร
ถ้าให้อธิบายความหมายแบบง่าย ๆ สินไหมทดแทน คือ เงินทดแทน หรือเงินชดเชยที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับหลังจากที่ได้รับความเสียหายจากการทำประกันภัยประเภทต่าง ๆ เช่น ถ้าทำประกันชีวิตเอาไว้หากเกิดเหตุเสียชีวิต หรือทุพพลภาพตามเงื่อนไขก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนไม่เกินจำนวนเงินที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์
อีกหนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ สมมติว่าเราทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ แล้ววันนึงรถเกิดไฟไหม้ หรือรถชนขึ้นมา แน่นอนเลยว่ารถยนต์เสียหาย เราก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนไม่เกินวงเงินที่ได้ระบุเอาไว้เช่นกัน อ่านความคุ้มครองของประกันชั้น 1 ได้ที่นี่ : ประกันชั้น1 คุ้มครองอะไรบ้าง ถ้าไม่อ่านอย่าเพิ่งทำประกันภัย !
การจะได้รับค่าสินไหมทดแทนได้นั้น ทางบริษัทประกันภัยต้องสามารถตรวจสอบได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น นั้นเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นเองจริง ๆ ไม่ใช่การจัดฉากเพื่อหวังเงิน เคลมประกัน หากบริษัทตรวจสอบเจอขึ้นมาว่าผู้เอาประกันนั้นวางแผนจัดฉากเพื่อหวังเงินค่าสินไหมทดแทนละก็ นอกจากจะไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทนแล้ว เผลอ ๆ ยังถูกดำเนินคดีทางกฎหมายอีกด้วย !
ใครเป็นผู้รับค่าสินไหมทดแทน
บุคคลที่มีสิทธิ์จะได้รับ ค่าสินไหมทดแทน นั้นมี 2 คนด้วยกัน คือ
1. ผู้เอาประกันภัยเอง
2. ผู้รับผลประโยชน์ (จะเห็นได้ชัดจากกรณีที่ทำประกันชีวิตไว้)
กรณีไหนถึงสามารถเรียกสินไหมทดแทนได้
ค่าสินไหมกรณีเสียชีวิต
- ค่าปลงศพ
- ค่าใช้จ่ายสำหรับจัดงานศพ
- รายได้ทดแทนของผู้เสียชีวิตที่เคยได้
- ค่าขาดแรงงาน
- ค่าขาดไร้อุปการะ
ค่าสินไหมกรณีป่วยไข้หรือบาดเจ็บ
- ค่ารักษาพยาบาล
- ค่าเสียความสามารถในการประกอบอาชีพการงานในปัจจุบัน
- ค่าเสียความสามารถในการประกอบอาชีพการงานในอนาคต
- ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไประหว่างการรักษา
- ค่าเสียหายแก่ร่างกายเมื่อพิการหรือทุพพลภาพ
- ค่าเสียหายอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ตัวเงิน
ค่าสินไหมกรณีทรัพย์สินเสียหาย
- ผู้เอาประกันจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันน้อยลง
- กรณีที่เราไม่มีคู่กรณี หรือเราไม่ผิด
- ยอดเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเองตามความสมัครใจ
เบิกค่าสินไหมทดแทน ใช้เอกสารอะไรบ้าง
- แบบฟอร์มการเรียกสินไหมทดแทนประกันภัยประเภทต่าง ๆ (ขอได้จากบริษัทประกัน หรือโบรกเกอร์ประกันภัย)
- เอกสารยืนยันตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชน
- ใบเสร็จรับเงิน
- ใบแจ้งความเสียหาย
***การแจ้งเบิก ค่าสินไหมทดแทน ของประกันแต่ละประเภทจะแตกต่างกัน แนะนำว่าให้สอบถามกับบริษัทประกัน หรือโบรกเกอร์ประกันภัยอีกครั้ง
อ่านเพิ่มเติม : สรุปมาแล้ว 10 โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ ที่ไหนดี ที่สุดในเมืองไทย ปี 2020
ขั้นตอนการเบิกค่าสินไหมทดแทน
หลังจากที่เตรียมเอกสารการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเรียบร้อย ก็ให้กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน จากนั้นก็ยื่นเอกสารประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล ใบแสดงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ออกเองไปก่อน ใบแจ้งความเสียหายที่เกิดขึ้น ภาพประกอบต่าง ๆ หรือเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถโทรสอบถามจากบริษัทประกันภัยได้ จากนั้นก็รวบรวมเอกสารทั้งหมดส่งให้บริษัทประกันภัย หรือถ้าใครซื้อประกันผ่านโบรกเกอร์ประกันภัย ก็แจ้งให้ทางโบรกเกอร์ทำเรื่องให้ได้เช่นกัน
เบิกค่าสินไหมทดแทน ใช้เวลากี่วัน
ระยะเวลาการเบิกค่าสินไหมทดแทน ส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณ 7-15 วันทำการ
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ทำประกันภัยอย่างเรา ๆ ด้วย ว่าส่งเอกสารครบถ้วน สมบูรณ์หรือไม่ เพราะบริษัทประกันภัยจะทำเรื่องอนุมัติค่าสินไหมทดแทนได้ก็ต่อเมื่อได้รับเอกสารประกอบครบถ้วนแล้วเท่านั้น !
การเรียก ค่าสินไหมทดแทน ทางผู้ทำประกันภัยควรเตรียมเอกสารประกอบต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อที่จะได้ทำเรื่องเบิกค่าสินไหมทดแทนได้ไวขึ้นภายใน 7-15 วัน ก็หวังว่าเพื่อน ๆ จะเข้าใจเรื่องสินไหมทดแทนกันมากขึ้นนะคะ อย่าลืมเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนน้า