สอบใบขับขี่ ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้ง่ายๆ แค่ไม่กี่ขั้นตอน ล่าสุด 2564 !

ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ปี 2562

ทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ (รถมอเตอร์ไซค์) 2564

ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ หรือ รถยนต์ ก็จำเป็นจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ สมัยนี้ใครขี่รถจักรยานยนต์แล้วไม่มีใบขับขี่ถือว่า Out มากเว่อร์ เสี่ยงโดนเสียค่าปรับ หรือ โดนคุณตำรวจจับอีก โดยเฉพาะใครที่ใบขับขี่หมดอายุ แนะนำว่าให้รีบ ต่อใบขับขี่รถยนต์ อย่างด่วนจี๋ ส่วนใครที่ขี่รถจักรยานยนต์แล้วยังไม่มีใบขับขี่ขอร้องเถอะน้าาา ไปสอบใบขับขี่เถอะ เพราะขั้นตอนการสอบใบขับขี่ไม่ยากเลยจริงๆ แอบกระซิบว่าง่ายกว่าการสอบทำใบขับขี่รถยนต์อีก ตามไปดูกันเลยว่าการสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ มีขั้นตอนอย่างไร ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ใช้อะไรบ้าง Update ปี 2563 !

ขั้นตอนการสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์

1. จองคิวอบรมเพื่อสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์

ขั้นแรกเพื่อนๆ ต้องจองสถานที่เพื่ออบรมการสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ล่วงหน้า ไม่ว่าจะอยู่กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดก็สามารถสอบใบขับขี่ได้ โดยไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อมาสอบถึงกรมการขนส่งทางบก เพราะสามารถเลือกสำนักงานขนส่งที่ใกล้เคียงกับบ้านของเพื่อนๆ เพื่อจองคิวอบรมใบขับขี่รถจักรยานยนต์ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดก็มีสำนักงานขนส่งให้บริการหมด! สามารถจองคิวอบรมใบขับขี่ได้ 3 ช่องทาง คือ

  • จองคิวอบรมใบขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยตนเอง หรือโทรไปจองคิวอบรมที่สำนักงานขนส่งที่อยู่ใกล้บ้านท่านที่สุด
  • จองคิวอบรมใบขับขี่รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ผ่านทางออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ >>> http://ebooking.dlt.go.th/ebooking/ ไม่ต้องกลัวว่าจะทำไม่เป็น เค้ามีคู่มือบอกจ้า
  • อบรมใบขับขี่ผ่านสถานบริการเอกชนที่ผ่านการรองรับจากขนส่ง

*หากไม่จองคิวล่วงหน้า อาจจะไม่มีที่นั่งสำหรับการอบรมใบขับขี่ เพราะคนส่วนใหญ่จะจองคิวล่วงหน้ากัน

2. เตรียมเอกสารสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์

ไม่ว่าจะเป็นการสอบใบขับขี่รถยนต์ หรือ สอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ เอกสารที่ใช้ก็จะเหมือนกัน ดังนี้

  • บัตรประชาชนตัวจริง
  • ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน
  • ใบรับรองการอบรม (เมื่ออบรมนอกเขตพื้นที่ขนส่ง เช่น สถานที่เรียนขับรถบางแห่ง)

อ่านเพิ่มเติม : เอกสารต่อใบขับขี่ รถยนต์ต้องใช้อะไรบ้าง พร้อมขั้นตอนแบบละเอียด Update 2563 !

3. ทดสอบปฏิกิริยาการตอบสนอง และสมรรถภาพ

  • ทดสอบการมองเห็นสี : จะมีเจ้าหน้าที่ทดสอบโดยการชี้ หรือกดปุ่มสัญญาณไฟ ซึ่งเราต้องบอกให้ถูกว่าสีที่เจ้าหน้าที่ขนส่งชี้ หรือกดปุ่มเป็นสีอะไร เพื่อทดสอบว่าตาบอดสีหรือไม่
  • ทดสอบสายตาทางกว้าง : จะทดสอบโดยการให้เรานั่งแล้วหันหน้าให้ชนกับแท่นทดสอบ ส่วนภายในของด้านข้างแท่นทดสอบทั้ง 2 ด้าน จะมีไว้สำหรับแสดงสีไฟจราจร เมื่อเรานั่งหน้าชนกับแท่นทดสอบเรียบร้อยเจ้าหน้าที่ก็จะกดสัญญาณไฟ แล้วให้เราบอกว่าเห็นสีไฟจราจรจากด้านข้างเป็นสีอะไร เพื่อทดสอบสายใต้ทางด้านกว้าง
  • ทดสอบสายตาทางลึก : จะทดสอบโดยการให้ดึง หรือกดเลื่อนแท่ง 2 แท่งให้ตั้งอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน
  • ทดสอบการเหยียบเบรค : ทดสอบโดยการเหยียบเบรคเมื่อเห็นสัญญาณไฟจราจรเป็นสีแดง

4. เข้ารับการอบรมใบขับขี่รถจักรยานยนต์

เพื่อสร้างจิตสำนึก และปลูกฝังวินัยในการขับขี่ ก็ต้องเข้ารับการอบรมกันสักนิดนึงก่อนสอบหรือ ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ใช้เวลาไม่นานแค่ 5 ชั่วโมงจ้า โดยจะแบ่งเป็นหัวข้อดังนี้

  • กฎหมายจราจร
  • เทคนิคการขับขี่อย่างปลอดภัย
  • กฎหมายการขนส่งทางบก กฎหมายแพ่ง และอาญา
  • หน้าที่ผู้ขับรถ และการบำรุงรักษารถ
  • มนุษยพันธ์ และมารยาทในการขับขี่
  • การส่งเสริมสุขภาพพลานามัย
  • หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ขับรถ
  • หัวใจ และการบริการทางขนส่ง
  • การตรวจความพร้อมของรถ ก่อน-หลังการใช้งาน
  • การขับรถลากจูง และการขับรถลากจูงอย่างไรให้ปลอดภัย

5. สอบทฤษฎี จำนวน 50 ข้อ

เรื่องที่ออกสอบส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่อบรมไปนั่นแหละ โดยข้อสอบจะมีทั้งหมด 50 ข้อ ซึ่งผู้สอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ต้องทำให้ได้มากกว่า 45 ข้อขึ้นไปถึงจะสอบผ่าน ซึ่งเมื่อทำข้อสอบเสร็จเราจะรู้ผลสอบทันที! หากสอบไม่ผ่านจะต้องมาสอบใหม่ภายใน 90 วันเท่านั้น

6. สอบปฏิบัติ

การสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์จะสอบทั้งหมด 5 ท่า คือ

  • ขับรถจักรยานยนต์โดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
  • ขับรถจักรยานยนต์ผ่านทางโค้งเป็นรูปตัว Z
  • ขับรถจักรยานยนต์ผ่านทางโค้งเป็นรูปตัว S
  • ขับรถจักรยานยนต์แบบ zigzag ผ่านสิ่งกีดขวาง
  • ขับรถจักรยานยนต์ทรงตัวบนทางแคบโดยเท้าห้ามแตะพื้น

7. รอรับใบขับขี่รถจักยานยนต์ได้เลย

หลังจากสอบภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติผ่านเรียบร้อยก็เตรียมตัวถ่ายรูปรับใบขับขี่กันได้เลย โดยการทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ครั้งแรกจะเสียค่าธรรมเนียม 105 บาท ซึ่งใบขับขี่ที่เราได้รับจะเป็นใบขับขี่แบบชั่วคราวมีระยะเวลาแค่ 2 ปี

เมื่อใบขับขี่ครบกำหนดหมดอายุก็จะต้องไปทำเรื่องต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ใหม่อีกครั้ง ส่วนรายละเอียดจะเป็นยังไงตามอ่านต่อกันได้เลย

ต่ออายุใบขับขี่รถจักรยานยนต์

หลังจากที่ทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์เรียบร้อยแล้ว ก็ใช่ว่ามันจะอยู่กับเราไปตลอดชีพ เมื่อครบกำหนดเวลา ต้องทำการ ต่ออายุใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ใหม่ โดยจะมีการต่อใบขับขี่เป็น 2 แบบ คือ ต่ออายุใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี และต่ออายุใบขับขี่จาก 5 ปี เป็น 5 ปี

ใบขับขี่รถจักรยานยนต์หมดอายุ ต่อได้ล่วงหน้าภายในกี่วัน?

เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็สงสัยไม่น้อยว่าใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์หมดอายุ เราสามารถ ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ล่วงหน้า ได้กี่วันกันแน่

  • ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์จาก 2 ปี เป็น 5 ปี >>> สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน
  • ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์จาก 5 ปี เป็น 5 ปี >>> สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน

ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์จาก 2 ปี เป็น 5 ปี เอกสารที่ใช้คือ

  • บัตรประชาชนตัวจริง
  • ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน
  • ใบขับขี่ใบเดิมที่หมดอายุ

ต่อใบขับขี่จากรถจักรยานยนต์ 5 ปี เป็น 5 ปี เอกสารที่ใช้คือ

  • บัตรประชาชนตัวจริง
  • ใบขับขี่ใบเดิมที่หมดอายุ

ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่รถจักรยานยนต์

1. ตรวจสอบเอกสาร

แนะนำว่าควรเตรียมเอกสารต่างๆ ไปให้ครบ ไม่อย่างนั้นเสียเวลาต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างแน่นอน

2. ออกใบคำขอ

นั่งรอสักแปปนึงเจ้าหน้าที่ขนส่งก็จะออกใบคำร้องขอทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ หลังจากนั้นก็รอคิวเพื่อเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย

3. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

  • ทดสอบการมองเห็นสี
  • ทดสอบสายตาทางกว้าง
  • ทดสอบสายตาทางลึก
  • ทดสอบปฏิกิริยาเท้าด้วยการเหยียบเบรค

4. เข้ารับการอบรม

ถ้าเป็นการ ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ จาก 2 ปี เป็น 5 ปี จะไม่มีการอบรมภาคทฤษฎี ส่วนต่ออายุใบขับขี่จาก 5 ปี เป็น 5 ปี ต้องอบรบภาคทฤษฎี 1 ชั่วโมง (บางที่ก็ไม่ต้องอบรมเลย)

5. รอรับใบอนุญาตขับขี่ใบใหม่

ขั้นตอนท้ายสุดนี้ก็คือการรับใบอนุญาตขับขี่ใบใหม่ โดยรอเจ้าหน้าที่ขนส่งเรียกไปถ่ายรูป แล้วก็ชำระค่าธรรมเนียมการออกใบขับขี่รถจักรยานยนต์ หลังจากนั้นก็จะได้รับใบขับขี่ใบใหม่มาเชยชมสมใจแล้วจ้า

ต่อใบขับขี่มอไซค์กี่บาท

ราคา ค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ จะอยู่ที่จำนวน 255 บาท

ใบขับขี่รถจักรยานยนต์หมดอายุเกินเท่าไร จึงจะต้องสอบใหม่?

ต่อใบขับขี่หมดอายุ
ตารางสรุปการต่อ ใบขับขี่หมดอายุ
  • หากใบขับขี่รถจักรยานยนต์หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่
  • ใบขับขี่รถจักรยานยนต์หมดอายุเกิน 3 ปี มีค่าเท่ากับการสอบใหม่เลยจ้า เพราะต้องสอบทั้งข้อเขียน และสอบปฏิบัติ!

อ่านเพิ่มเติม : ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อใบขับขี่ภายในกี่วัน พร้อมโทษปรับใบขับขี่ ปี 2563

ขอแนะนำว่าควรไปทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือ ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ในช่วงเช้าจะดีที่สุด เพราะสาย ๆ คนเจะเยอะหนักมากกกก หลังจากที่ได้ใบขับขี่ใบใหม่เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมพกใบขับขี่ติดตัวตอนขับรถด้วยล่ะ ไม่งั้นอาจจะโดนตำรวจจับและปรับได้

ที่สำคัญอย่าลืมดูวันหมดอายุใบขับขี่ด้วย หากใบขับขี่ใกล้ถึงกำหนดวันสิ้นอายุก็อย่าลืมรีบไป ต่ออายุใบขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือ ต่อใบขับขี่รถยนต์ เอาไว้ล่ะ เพื่อเอาไว้เป็นสิ่งยืนยันว่าเราได้รับการอนุญาตให้ขับรถได้แล้วจริงๆ

ขอบคุณคลิปจาก kapookdotcom

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ข้อมูลนี้มีประโยชน์มากแค่ไหน !
[จำนวนคนโหวต: 7 เฉลี่ย: 4.4]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
trang cá độ bóng đá uy tín, đăng ký w88, w88, nhà cái uy tín nhất, w88 chuẩn nhất, đăng ký 8xbet, link vào fb88, đăng nhập 8xbet, đăng ký fun88, lô đề trên mạng, đánh đề trên mạng, trang cá cược bóng đá uy tín, nhà cái ok vip, link vào w88, link vào m88